6 ภาวะเสี่ยงมะเร็ง

6 ภาวะเสี่ยงมะเร็ง


มะเร็งเป็นโรคที่ทุกคนหวาดกลัวตามหลักการแพทย์แผนจีนมีคำอธิบายถึงภาวะต่างๆที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งดังนี้

 1. ร่างกายแบบมีความชื้นสะสมเยอะ

ข้อสังเกตง่ายๆของคนที่มีร่างกายลักษณะนี้ก็คือคนที่อ้วนตัวใหญ่รู้สึกว่าในปากมีน้ำลายเหนียวเหนียวหวานๆ อ้ายรู้สึกว่าแขนขาหนักหนัก จะมีอาการท้องอืดแน่นท้องเป็นประจำ ชอบกินของมัน ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลักษณะเหล่านี้บอกถึงความเสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกออกซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งแต่ก็สามารถกลายเป็นมะเร็งได้ดังนั้นคนที่มีร่างกายลักษณะนี้จะต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดการกินเนื้อสัตว์ งดของมันของหวาน และหันมากินอาหารรสจืดจืดแทนเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นสะสมในร่างกายเยอะ


อาหารที่ช่วยขับความชื้นในร่างกาย

ลูกเดือย

โดยสามารถนำมาต้มกินเพื่อขับความชื้น แก้ปวด ลดความอ้วน นอกจากนี้ยังสามารถกินลูกเดือยโดยแทนข้าวทุกมื้อเลยก็ได้ จนกว่าอาการจะดีขึ้น เมื่อกินไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะรู้สึกว่าตัวเบาขึ้นไม่บวมอาการท้องอืดแน่นท้องก็จะดีขึ้นรู้สึกมีแรงมากขึ้น


2. ร่างกายแบบชี่บกพร่องหรือร่างกายที่ลมปราณอ่อนแอ

ข้อสังเกตคือคนที่มีร่างกายลักษณะนี้จะมีดวงตาและสีหน้าที่ไม่มีชีวิตชีวามีอาการอ่อนเพลีย เหงื่อออกเยอะ รู้สึกขี้เกียจพูด หายใจไม่ทันหายใจไม่เต็มอิ่มซึ่งลักษณะเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคมะเร็งปอดได้ง่ายเพราะปอดเป็นตัวสูบฉีดลมปราณในร่างกาย ใครที่มีลักษณะข้างต้นจึงควรพักผ่อนเยอะๆไม่หักโหม งดสูบบุหรี่ อยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเท ฝึกนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจโดยการหายใจเข้าออกลึกลึกช้าๆ หายใจให้สุดเพื่อปรับออกซิเจนในเลือดให้เพิ่มมากขึ้นและอาจจะต้องกินยาบำรุงซึ่งต้องให้หมอเป็นคนจ่ายให้


อาหารที่ช่วยปรับลมปราณ

ยาฮ่วงฉี

ยาชนิดนี้จะช่วยบำรุงชี่ หาซื้อได้จากร้านขายยาจีนนำมาต้มดื่มเป็นน้ำชาโดยนำแผ่นยามาล้างก่อน 1 รอบ จากนั้นใช้ตัวยาในปริมาณ 10 กรัมใส่หม้อต้มกับน้ำร้อน  500 CC  จนเดือด แล้วกรองเป็นชาดื่ม สามารถกินแทนน้ำเปล่าได้ ยาฮ่วงฉี เป็นยาบำรุงที่ใช้มากในผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด เพื่อบำรุงเลือดและลมปราณ แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หรือไข้หวัดควรหลีกเลี่ยงยาชนิดนี้ เพราะจะยิ่งเป็นการเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย

โสมอเมริกา

เป็นโสมที่มีราคาไม่แพงมากนัก หาซื้อได้จากร้านยาจีนเช่นกัน ตัวยาจะมาในลักษณะแผ่นสีขาวนวล ให้นำมาต้มแล้วกลองดื่มเช่นเดียวกับยาฮ่วงฉี  แต่ส่งอเมริกาจะให้ความร้อนน้อยกว่าจึงไม่ทำให้เป็นร้อนใน


3. ร่างกายแบบอินพร่อง

คนที่เป็นอินพร่องมักจะเป็นคนผอม  อินคือความเย็น ความเย็นในร่างกายน้อยเพราะร่างกายข้างในมีการเผาผลาญเยอะทำให้สารน้ำในร่างกายน้อยตัวเลยผอมและจะมีความรู้สึกคอแห้ง หิวน้ำ ปากแห้ง ท้องผูก ฉี่เหลือง ตัวร้อน ฝ่ามือและฝ่าเท้าร้อน มีเหงื่อออกเยอะ ถ้าสารน้ำในร่างกายไม่พอก็จะส่งผลให้เป็นมะเร็งปอดได้ พบมากในคนที่สูบบุหรี่เพราะบุหรี่ทำให้ร่างกายร้อนดังนั้นผู้ที่สูบบุหรี่จึงควรงดสูบและให้จิบน้ำบ่อยๆ


อาหารที่ช่วยเพิ่มความเย็น

ม่ายตง

ม่ายตงเป็นรากไม้ที่อยู่ใต้ดินเป็นยาเย็นใช้ประมาณ 1 ช้อนชาต้มกับน้ำ 500 CC แล้วจิตจนกว่าอาการจะดีขึ้นจะรู้สึกปากคอหายแห้งและหิวน้ำน้อยลง


4. ร่างกายแบบหยางพร่อง

หยางก็คือความร้อน ผู้ที่หยางพร่องคือมีความร้อนในร่างกายน้อย ทำให้มีอาการขี้หนาว เหงื่อออกเยอะอาจจะมีอาการถ่ายเหลวหรือปัสสาวะบ่อยด้วย ส่วนใหญ่จะพบในผู้สูงอายุอาจจะเกิดจากการทำงานเหนื่อยมากเกินไปเป็นเวลานานๆ ร่างกายลักษณะนี้จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ เพราะมีหยางไม่พอสำหรับการย่อยอาหาร ดังนั้นจึงต้องให้ความอบอุ่นกับร่างกายและหลีกเลี่ยงการกินของเย็นเช่น น้ำเย็น น้ำแข็ง ไอศครีม


อาหารเพิ่มความร้อน

ขิง

การกินขิงจะช่วยให้หายหนาวและทำให้กระเพาะอาหารอุ่น นำขิงแก่ครึ่งแง่งมาต้มกับน้ำ 500 ซีซีแล้วดื่มได้เลย นอกจากการกินขิงแล้วการแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นก็ช่วยเพิ่มความร้อนให้ร่างกายได้


5. ร่างกายแบบเลือดติดขัดไหลเวียนไม่ดี

การที่เลือดติดขัดในร่างกายมักจะเกิดจากการเจ็บป่วยเรื้อรังรักษาไม่หายสักที ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ผู้ที่มีร่างกายลักษณะนี้อาจจะมีสีหน้าคล้ำ ริมฝีปากคล้ำ ใต้ตาดำ ลิ้นสีออกม่วง ซึ่งเป็นลักษณะที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับ ปัจจุบันโรคมะเร็งตับมักเกี่ยวข้องกับการกินอาหาร เช่นอาหารมันอาหารย่อยยาก เนื้อสัตว์ติดมันทั้งหลาย พ่อกินของมันเลือดก็หนืด ไขมันในเลือดสูง จึงทำให้เลือดติดขัด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้ก็ต้องผ่อนคลายความเครียด ปรับอารมณ์ ทำให้จิตใจสงบด้วย


อาหารที่ช่วยปรับระบบไหลเวียนของเลือด
ชากุหลาบ
ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและช่วยให้ผ่อนคลาย ใช้ชา 1 ช้อนชา ใส่แก้ว แล้วเทน้ำร้อน 500 CC  คนให้เข้ากันแล้วดื่ม

ชาดอกคำฝอย
เช่นเดียวกับชากุหลาบ ใช้ชา 1 ช้อนชา แล้วเทน้ำร้อน 500 CC  โดยอาจดื่มผสมกับชากุหลาบก็ได้


6.ร่างกายแบบชี่ติดขัด

ตั้งกายลักษณะนี้คือการที่ลงการไหลเวียนไม่สะดวก คนที่มีร่างกายลักษณะนี้มักจะเป็นคนไม่ค่อยมีความสุข ลังเล อารมณ์อ่อนไหวง่าย แน่นหน้าอก เจ็บร้าวที่สีข้าง เพราะมีสาเหตุจากอารมณ์ นอกจากนี้หากชี่ติดขัดนานๆ จะส่งผลให้เลือดติดขัดไปด้วย ดังนั้นวิธีปรับก็คือทำจิตใจให้ผ่อนคลายทำสมาธิ ไม่หงุดหงิด ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข นอกจากนี้ก็ให้กินอาหารขับลมชนิดต่างๆ


วิธีปรับลมปราณหรือชี่ในร่างกาย

นวดกดจุด

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นวิธีปรับปรุงการที่ดีที่สุด โดยจะเป็นในรูปแบบไหนก็ได้ เช่น เดิน วิ่งเหยาะๆ ทำแอโรบิก ให้ร่างกายได้ขยับ อย่านั่งท่าเดิมนานๆ เพื่อช่วยให้ลมปราณไหลเวียนดี